สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกยุติลัทธิบูชาเงิน และหันมาช่วยเหลือคนจนให้มากขึ้น รวมทั้งเตือนว่าความสุขของคนในประเทศพัฒนาแล้วกำลังลดลงเรื่อยๆ
17 พ.ค. 56 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาธอลิก ตรัสกับบรรดานักการทูตใหม่ประจำสำนักวาติกันเมื่อวานว่า หลังจากในอดีตผู้คนบูชาในสิ่งต่างๆ ที่ไม่ควรเชิดชู แต่ตอนนี้สิ่งบูชาได้เปลี่ยนรูปแบบใหม่เป็น เงินและระบบเผด็จการทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีตัวตนและไม่ใช่เป้าประสงค์ที่แท้จริงของมนุษย์
สมเด็จพระสันตะปาปายังตรัสอีกว่า อุดมการณ์ตลาดเสรีแบบสุดโต่งได้สร้าง “ระบอบ ทรราชย์ยุคใหม่ที่มองไม่เห็น” และมนุษย์ “ถูกมองในฐานะสินค้าบริโภค” พวกทรราชย์จะออกกฎหมาย และข้อบังคับตามอำเภอใจฝ่ายเดียว นอกจากนี้หนี้สินและการกู้ยืมทำให้ประเทศไม่เข้าใจภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ และประชาชนไม่เข้าใจอำนาจซื้อที่แท้จริงของตัวเอง ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น และการเลี่ยงภาษีอย่างเห็นแก่ตัว และความปรารถนาที่จะแสวงหาอำนาจและการครอบครองสิ่งต่างๆ จึงเกิดขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด แต่พระองค์เตือนว่าเงินมีไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ ไม่ใช่กำหนดควบคุมการกระทำของพวกเขา
พระองค์จึงทรงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเงินทั่วโลกอย่างมีจริยธรรม ที่จะกระจายผลประโยชน์แก่ทุกคนอย่างทั่วถึง เพราะในขณะที่รายได้ของคนส่วนน้อยเพิ่มขึ้น คนจนส่วนใหญ่กำลังทุกข์ยาก และวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้ประชาชนในประเทศยากจนหลายล้านคนทั่วโลก ต้องอยู่อย่างยากลำบาก
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ออกมาตรัสเกี่ยวกับวิกฤตด้านการเงินของโลก และมีรายงานด้วยว่าธนาคารวาติกัน จะเปิดเผยรายงานประจำปีต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรกผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร หลังจากในอดีตวาติกันมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตหลายครั้ง การเปิดเผยข้อมูลทางการเงินครั้งนี้ จึงเป็นความพยายามสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้น