ครอบครัวของปีศาจ

สวัสดีค่ะ หนูขอแนะนำตัวกับเพื่อนนักเรียน หนูชื่อปีศาจ นามสกุลวงศ์สีชมพู ปีนี้หนูอายุห้าขวบค่ะ

คุณครูถามหนูว่าชื่อนี้เป็นชื่อจริงหรือชื่อเล่น ก็เป็นชื่อจริงสิค่ะ

สมาชิกในครอบครัวหนูมีชื่อแปลกๆอย่างนี้หมดเลยค่ะ เพราะคุณพ่อของหนูตั้งชื่อพวกเราตามหนังสือโบราณ คุณพ่อบอกชื่อพวกนี้มีความหมายดีค่ะ

คุณแม่ของหนูเป็นชาวเขาค่ะ เผ่าแม้ว ตัวเล็กๆ เวลาเจอกับคุณพ่อตอนนั้นท่านอายุสิบสี่ขวบเท่านั้น ไม่รู้คุณพ่อดั้นด้นยังไงถึงได้กับคุณแม่ บางคนบอกว่าคุณพ่อเห็นตัวพวกหนูในตัวคุณแม่

ทำไมปีศาจจึงมีความหมายดีหรือค่ะ หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องถามคุณพ่อของหนูค่ะ

หนูร้ายกาจหรือเปล่าหรือคะ ก็ไม่เห็นร้ายอะไรนี่คะ ยกเว้นมาทำให้หนูโกรธ หนูจะฉี่ใส่หน้า หากพี่เลี้ยงมาทำให้หนูไม่พอใจ หนูจะแอบไปฉี่รดเสื้อผ้าของเธอ ฮิ ฮิ

ทำไมหนูหน้าตาน่ารักหรือคะ ก็หนูเป็นปีศาจตัวจริงนี่คะ ปีศาจก็ต้องสวยอยู่แล้ว

หนูมีพี่น้องรวมแปดคน หนูเป็นคนที่หกค่ะ

หนูจะเล่าสมาชิกในครอบครัวหนูให้ฟังนะคะ พี่คนโตเป็นผู้ชาย ชื่อมังกรคะ เขาเสียชีวิตตอนอายุเจ็ดขวบ ที่จริงหนูไม่เคยเห็นเขาเลยนะคะ แต่คุณพ่อบอกว่า ธรรมชาติของมังกรต้องเป็นอย่างนี้ มังกรต้องเห็นตัวเพียงบางส่วน เช่นเห็นหัวไม่เห็นหาง หรือเห็นหางไม่เห็นหัว

พี่มังกรก็เลยสมเป็นมังกร เพราะเขาเกิดมาอยู่กับพ่อแม่เพียงเจ็ดปีแล้วก็หายไปเลยค่ะ แต่คุณพ่อก็ยังตอบต่อเขาเหมือนเขายังมีชีวิตอยู่ ที่บ้านยังมีห้องของพี่มังกร ในนั้นมีของใช้ของเขา มีภาพถ่าย มีเสื้อผ้า และทุกอย่าง แม้แต่เวลากินข้าว ก็ยังมีที่นั่งของเขาเลยคะ หนูเลยรู้สึกอยู่เสมอว่าคนตายกับคนเป็นไม่แตกต่างกันเท่าไรหรอกค่ะ เหมือนเดินสวนกันทุกวันเลย

พี่มังกรเปิดประตูไปสู่อีกโลกหนึ่งไงคะ ที่จริงหนูไม่เคยได้ยินเสียงของเขาเลยคะ ไม่เคยฝันถึงด้วย แต่เขาเป็นพี่ใหญ่คะ หนูรู้สึกเขามีความสำคัญสูงสุด เวลาเราจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เราต้องคิดถึงเขาด้วยค่ะ

มันอยู่ในอากาศกระมังคะ มังกรบินอยู่ในอากาศ

เขาปรากฏตัวนิดเดียวเท่านั้น แต่แรงคะ มีวันหนึ่งพี่ฟ้า พี่คนที่สองของหนู พูดจาไม่ดีถึงพี่มังกร วันรุ่งขึ้น แขนของเธอเป็นผื่นแดง เป็นเส้นยาวเลยคะ เหมือนโดยหางมังกรเฉี่ยว

หนูกลัวเลยคะ ไม่กล้าพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับพี่คนโตของหนู

ห้องของเขาเล็กนิดเดียว เขายังเป็นเด็กนี่คะตอนเสียชีวิต แต่ตำแหน่งของเขาใหญ่ค่ะ ครูถามว่าเขาตัดสินใจยังไงหรือคะ ก็ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนมีคลื่นอยู่ในอากาศ เขาเป็นคนโบราณที่สุดในบ้าน

สิ่งที่คุณพ่อทำให้พี่มังกร คือการดูแลทุกอย่างเหมือนพี่มังกรยังมีชีวิตอยู่

คุณพ่อบอกหนูว่าพี่มังกรเลื้อยได้ หนูแปลกใจว่ามันคืออะไร คุณพ่อบอกตอนหนูเกิด พี่มังกรอายุเจ็ดขวบ พอหนูอายุสองขวบ พี่มังกรก็ยังคงอายุเจ็ดขวบเท่าเดิม เพราะคนตายไม่เปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าวันนี้ พี่มังกรกลายเป็นคนที่ห้า อีกหน่อยหนูกับน้องๆก็จะโตกว่า แล้วพี่ใหญ่ของหนูก็จะกลายเป็นน้องเล็ก ฮิ ฮิ

นี้คือการเลื้อยของมังกร

พี่คนที่สองของหนู ชื่อฟ้าคะ เป็นผู้หญิง ปีนี้อายุสิบเจ็ดขวบ ก็ไม่ค่อยสวยเท่าไรหรอกคะ คุณแม่บอกว่า พี่ฟ้าเธอเป็นคนขี้โรคในสมัยเด็กๆค่ะ ผอมกะหร่องเลย กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ แต่โตขึ้นกลับสุขภาพดี รูปร่างสวย สมัยก่อนเป็นคนขี้ขลาดค่ะ เดี๋ยวนี้เป็นคนกล้า คุณแม่ยกตัวอย่างให้เราฟังเสมอ

คุณแม่บอก ฟ้าขยายตัวทุกคืนวัน

พี่ฟ้าเป็นคนเงียบๆค่ะ ชอบอยู่คนเดียว

คุณพ่อบอกว่าก่อนตายจะให้ของขวัญชิ้นสำคัญแก่ลูกทุกคน คนละอย่างน้อยหนึ่งอย่าง คุณพ่อจะพิจารณาเองว่าใครเหมาะที่จะได้อะไร คุณพ่อถือพวกลูกๆแต่ละคนเป็นผลงานชิ้นเอกค่ะ เลยทุ่มเทสุดชีวิต ด้วยเงินทองทั้งหมดที่มี คุณพ่อมีฐานะดีค่ะ

แต่สิ่งที่คุณพ่อทำให้พี่ฟ้า กลับยิ่งใหญ่ไพศาลเลยค่ะ เพราะคุณพ่อสร้างวังให้หนึ่งวัง พวกเราพี่น้อง ไม่มีใครมีบ้านส่วนตัวเหมือนพี่ฟ้าเลยค่ะ ใหญ่และสวยสมเป็นวัง ชั้นล่างเป็นอาคารหินอ่อน ชั้นบนเป็นเรือนกระจก สว่างไสวทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยแสงแดดและแสงจันทร์

ชั้นบนมีกล้องดูดาวด้วยค่ะ

คุณพ่อบอก พ่อให้วังพี่ฟ้า ให้เธออยู่ใกล้ชิดกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ วังหลังนี้คุณพ่อจำลองมาจากแบบวิหารเทพอะพอลโล คุณพ่อเคยเห็นสมัยหนุ่มๆ ดูแล้วประทับใจมาก คิดอยู่เสมอว่าจะให้แก่ลูกคนโต บังเอิญพี่มังกรเสียชีวิตก่อน เลยตกมาเป็นของพี่ฟ้า

พี่ฟ้าเป็นตัวสำรอง คุณพ่อบอกไม่คาดหมายว่าลูกคนโตจะเป็นผู้หญิง แต่ความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่นี้ คือพลังแห่งฟ้า

กลางคืนวังของพี่ฟ้าไม่มีไฟฟ้า แต่ไม่มืดค่ะ แปลกนะคะ มีแสงสว่างจากธรรมชาติปรากฏขึ้นเสมอ

มันเป็นที่อยู่ที่แปลกนะคะ คือเย็นสบายในตอนกลางวัน และอุ่นร้อนในตอนกลางคืน

พี่คนที่สามของหนู ชื่อครุฑคะ เป็นผู้ชาย ปีนี้อายุสิบห้าขวบ คุณพ่อไม่ให้พี่ครุฑเรียนหนังสือสูง แต่กลับให้เขาเดินทางไกลไปในโลกกว้างคนเดียว คุณพ่อบอกให้เขาสมกับเป็นลูกผู้ชาย ต้องช่วยตัวเอง คุณพ่อบอกปีกของครุฑ ยามแผ่ออกเต็มที่ แต่ละข้างยาวหนึ่งหมื่นโยชน์ ครุฑยามโผบิน จึงไปได้ไกลแสนไกล

หนึ่งปีหนูเจอพี่ครุฑไม่กี่ครั้งเอง เพราะเขาเดินทางอยู่เสมอ เร่ร่อนไปเรื่อย คุณพ่อตั้งกองทุนกองใหญ่ให้เขาเดินทาง ไปหาประสบการณ์ในโลกกว้าง ไม่มีใครเหมือน

เวลาเขากลับบ้าน จะมีเรื่องราวแปลกๆเยอะแยะมาเล่าให้ฟัง ที่ครุฑบอกว่า ชีวิตมนุษย์แท้จริงทุกคนถูกควบคุมด้วยเหตุการณ์

มีนวนิยายซุกซ่อนอยู่ทั่วไปในโลก

หนูไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่พี่ครุฑพูดบ่อยจนหนูจำได้

ที่บ้านของหนู มีโต๊ะอาหารที่มีเก้าอี้สิบตัว เป็นของคุณพ่อคุณแม่ กับพวกลูกๆแปดคน แต่ปกติมักมีสามตัวที่ว่างเปล่า ตัวหนึ่งเป็นของพี่มังกร ที่จากโลกนี้ไปท่องอยู่ในอีกโลกหนึ่ง อีกตัวหนึ่งเป็นของพี่ฟ้า เธอชอบอยู่ในวังของเธอ อีกตัวหนึ่งเป็นของพี่ครุฑ เพราะเขายังไม่กลับบ้าน จึงเหลือพวกเราเด็กๆห้าคน

พี่คนธรรพ์ พี่กินรี หนู ยักษ์ และหงส์

ที่บ้านของหนูมีฝาแฝดคู่หนึ่ง คือพี่คนธรรพ์กับพี่กินรี หนึ่งชายหนึ่งหญิง คนหนึ่งผมยาว คนหนึ่งผมสั้น ฮิ ฮิ คนที่เป็นผู้ชายผมยาวนะคะ คนที่เป็นผู้หญิงผมสั้น จะว่าพวกเขาสองคนหน้าตาเหมือนกันก็ใช่ แต่ก็แตกต่างกันค่ะ ทั้งสองคนปีนี้อายุสิบสามขวบ ตอนนี้อยู่ชั้นมัธยมหนึ่ง

พี่คนธรรพ์เป็นผู้ชาย

พี่กินรี เป็นผู้หญิง เธอเรือนร่างสวยงามสง่า เดินสวยที่สุดในบ้าน

คุณพ่อให้ของขวัญแก่คู่แฝดนี้ ด้วยการให้พรคนละสามข้อ ตั้งแต่ตอนที่พวกอายุเจ็ดขวบ ให้พวกเขาขอเอาเอง อะไรก็ได้ ที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ คุณพ่อเรียกมันว่า
พรสามข้อของคนธรรพ์กับพรสามข้อของกินรี

พี่คนธรรพ์ใช้ไปเรียบร้อยสองข้อแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือเพียงข้อเดียว

พี่คนธรรพ์ขออะไรหรือคะ พี่เขาขอสิทธิในการอ่านไดอารี่ของพ่อกับแม่ รวมเป็นสองข้อ

คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูชอบเขียนไดอารี่ค่ะ และหวงมากด้วย เฉพาะของคุณพ่อ เขาเขียนตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นอายุเจ็ดขวบ และเขียนต่อเนื่องมาถึงวันนี้ วันนี้คุณพ่ออายุห้าสิบปีพอดี เท่ากับท่านมีสมุดไดอารี่ปกแข็งรวมสี่สิบสี่เล่ม เป็นสมุดปกแข็งสีดำ เก็บใส่ตู้ล็อกกุญแจ เรียงรายเป็นแถวยาวในห้องสมุดที่บ้านของเราค่ะ ใครๆก็อยากอ่าน แต่คุณพ่อหวงนะคะ

พี่คนธรรพ์ขอเป็นข้อแรกเลยค่ะ เพราะพี่คนธรรพ์บอกว่า อยากรู้จิตใจพ่อ

คุณพ่ออนุญาตค่ะ โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่ให้คนอื่นอ่าน และไม่บอกคนอื่นด้วย เป็นความลับ

ส่วนของคุณแม่ คุณแม่เริ่มเขียนไม่กี่ปีมานี้เองค่ะ ตอนแต่งงาน ท่านเพิ่งอายุสิบสี่ ปีนี้ท่านอายุสามสิบสี่ปี คุณแม่เขียนไว้เพียงสามเล่ม เป็นปกแข็งสีน้ำเงิน เรียงรายอยู่ในอีกตู้หนึ่ง แม้แต่คุณพ่อก็ไม่ได้อ่านนะคะ

แต่พี่คนธรรพ์ได้สิทธิพิเศษ มันเป็นพรข้อสองของเขาไงคะ

พี่คนธรรพ์ยอมเสียพรสองข้อ เพื่อแลกกับการรู้หัวใจพ่อแม่ เขาเป็นคนแปลกนะคะ เป็นคนเงียบ ชอบฟังเพลง และเล่นกีตาร์ คล้ายพี่กินรีแต่ไม่เหมือน

พี่กินรีเป็นโยคีเถื่อนค่ะ

คือพี่เขาฝึกจากชั่วโมงพละ วิชายืดหยุ่น เธอชอบวิชานี้มากค่ะ เลยฝึกหัดทุกวันเลย ต่อมาพี่กินรีก็ฝึกเอาเองจากหนังสือ อนาคตของพี่กินรีคงเป็นนักยิมนาสติก นักเต้นรำบัลเล่ย์ หรือไม่ก็เป็นครูสอนโยคะ แต่พี่เขาเรียนรู้เอาเอง ดิ้นรนขวนขวายช่วยตัวเองตลอด เธอไม่เคยใช้พรของคุณพ่อเลยนะคะ

หนูรู้ความลับของพี่กินรีด้วยค่ะ

บ่ายวันหนึ่งหนูนอนหลับอยู่ ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงคุยกันของพี่ฟ้ากับพี่กินรี หนูแกล้งนอนหลับตาฟังพวกเขาคุยกัน เลยรู้ความลับของพี่กินรี

คุณพ่อบอกให้พี่กินรีขอพรได้สามข้อ แต่จวบจนวันนี้ หลายปีแล้วค่ะ พี่กินรียังไม่เคยขออะไรเลย

พี่ฟ้าสงสัย ถามว่าทำไม ในเมื่อมีของหลายอย่างที่เธออยากได้ มีสถานที่หลายอย่างที่เธออยากไป

พี่กินรีบอกว่า ตอนแรกก็คิดจะขอเหมือนกัน แต่รู้สึกเสียดาย เพราะหากขอแล้ว ก็จะเหลือ
พรสองข้อของกินรี
และหากขออีก ในที่สุดก็จะเหลือ
พรหนึ่งข้อของกินรี
ในที่สุด ก็จะไม่เหลือเลย

เธอเสียดายค่ะ เลยใจแข็งไม่ยอมขออะไร เพราะชอบความรู้สึกของการมีพรสามข้อ เธอบอกมันงดงามอย่างบอกไม่ถูก และมีพลังมาก ในตลอดชีวิตนี้ เธออาจไม่ขออะไรเลย เพราะพอใจกับการมีพรสามข้อที่ไม่เคยใช้ มันทำให้เธอเดินเหินอย่างสง่างาม เต็มไปด้วยความมั่นใจ

หนูคิดว่าคุณพ่อเจ้าเล่ห์มากกว่า คุณพ่อคงรู้ว่าพี่กินรีใจเย็น และท้ายที่สุดคงไม่ขออะไร เท่ากับคุณพ่อไม่ต้องให้อะไรพี่กินรีซิคะ

หนูชอบฝึกโยคะกับพี่กินรีนะคะ หนูเลียนแบบพี่เขา พี่กินรีเป็นโยคีเถื่อน ส่วนหนูเป็นโยคีปลอม ฮิ ฮิ

คุณครูสงสัยว่าทำไมหนูอายุห่างกับพี่กินรีมากหรือคะ

ไม่รู้เหมือนกันคะ คงเพราะหนูเกิดยาก

คุณแม่ไม่ได้คุมกำเนิดหรอกนะคะ แต่พอมีพี่กินรี ก็ไม่มีเด็กอีกเป็นเวลาหลายปี จนคุณแม่คิดว่าจะมีลูกเพียงห้าคนเสียแล้ว แต่แล้วก็เกิดหนูขึ้นมา

หนูมีน้องสองคน คนโตชื่อยักษ์คะ ปีนี้อายุสามขวบ เป็นผู้ชายค่ะ หน้าตาแปลกๆ หัวเหน่ง ล่ำปึกเลย เนื้อแข๊งแข็ง ตัวใหญ่ หน้ากลมๆ แต่เขาอารมณ์ดีนะคะ หนูลองหยิกเนื้อแข็งของเขาดู ก็ยังหัวเราะชอบใจ ไม่เห็นร้องเลย มีวันหนึ่งหนูอยากรู้ว่าเขาจะกระเด้งเหมือนลูกบอลหรือเปล่า หนูเลยลองเตะเล่น พอดีคุณแม่เข้ามาเห็น เลยโดนทำโทษ หาว่าหนูรังแกน้อง หนูเตะเธอก็จริง แต่หนูไม่ได้รังแกน้องนะคะ หนูเพียงทดลองดู อยากรู้ว่ายักษ์จะกระเด้งเหมือนลูกบอลหรือเปล่า

หนูก็เลยเถียงกับแม่สิคะ เพราะหนูถูกใส่ร้ายค่ะ

น้องคนเล็กของหนูชื่อหงส์ค่ะ เป็นผู้หญิง ตอนนี้อายุหนึ่งขวบ หน้าตาน่าเกลียดที่สุดในบ้านเลย หน้าบึ๊งบึ้ง หน้าตาเหมือนเด็กผู้ชายอีกด้วย แต่คุณพ่อบอกนี้เป็นธรรมชาติของหงส์ ตอนเป็นเด็กเธอจะน่าเกลียด โตขึ้นก็จะสวยที่สุดในบ้าน ไม่รู้จริงหรือเปล่าค่ะ ตอนนี้มองยังไงก็ไม่เห็นสวย ยิ้มไม่เป็นอีกด้วย

ถ้าหน้าตาเหมือนเด็กผู้ชายอย่างนี้ โตขึ้นสวยที่สุดในบ้าน คงตลกดีนะคะ ฮิ ฮิ

หนูชอบนอนคุยกับหงส์ แต่เธอยังพูดไม่ได้นี่คะ ได้แต่จ้องมองหนูตาแป๋ว คล้ายหนึ่งเธอจะรู้เรื่องว่าหนูพูดอะไร หนูชอบคุยกับหงส์ค่ะ

คุณพ่อยังไม่ได้เตรียมอะไรให้พวกเขาสองคนเลยค่ะ เพราะพวกเขายังเด็กอยู่

คุณครูถามว่าคุณพ่อเตรียมอะไรให้หนูหรือคะ หนูเคยถามคุณพ่อ คุณพ่อบอกว่าจะให้ความว่างเปล่าแก่หนู

หนูถามว่าความว่างเปล่าคืออะไร คุณพ่อบอกโตขึ้นหนูจะรู้เอง

ความว่างเปล่ามันคืออะไรคะ คงมีคุณค่ามากเลย เพราะหนูรู้ว่าคุณพ่อรักหนูมาก ถ้าท่านจัดเตรียมไว้ให้หนู ก็คงต้องเป็นของสำคัญ

คุณพ่อบอก นี้คือความว่างเปล่าแห่งปีศาจ

คุณครูรู้ไหมคะว่าความว่างเปล่าคืออะไร หนูอยากรู้จริงๆคะ เอาไปเปรียบกับของที่คุณพ่อให้พวกพี่ๆของหนู จะสู้ได้ไหมคะ

โดย ฟ้าพูลวรลักษณ์  http://www.oknation.net/blog/print.php?id=239789

ชอบเรื่องนี้มาก เรื่องตั้งแต่ปี 2551 ดึงมาเก็บไว้ กลัวหาย