แป้งข้าวสาลี ก็มีหลายประเภทนะ

แป้งข้าวสาลี เป็นส่วนประกอบหลักของการทำขนมอบ ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง คุ้กกี้ หรือเค้ก

แป้งข้าวสาลี มีคุณสมบัติเด่นแตกต่างจากแป้งอื่นๆ คือ ทำให้เกิดร่างใยกลูเตน(gluten)ได้ โดยเกิดจากโปรตีน 2 ประเภท ได้แก่ glutenin และ gliadin ผสมกับน้ำ  ซึ่งกลูเตนจะมีคุณสมบัติทั้งแข็งตัวและยืดหยุ่น สามารถยืดและขยายออกได้โดยไม่แตกหัก ซึ่งทำให้ก้อนแป้งที่ขึ้นรูปแล้ว(dough) สามารถอุ้มไอน้ำ หรือ อากาศไว้ข้างใน

ข้าวสาลี เป็นพืชที่ปลูกมากเป็นอันดับสองของอเมริกา รองจากข้าวโพด แต่ถ้าพิจารณาถึงประโยชน์อันหลากหลายแล้ว ข้าวสาลี เป็นพืชอันดับหนึ่ง

แป้งข้าวสาลี แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้

  • hard red spring wheat
  • hard red winter wheat
  • soft red winter wheat
  • hard white wheat
  • soft white wheat

ซึ่งแบ่งตามความหยาบ ฤดูกาลเพาะปลูก และสี

แป้งที่หยาบกว่า(hard) จะได้จากข้าวสาลีที่มีเปลือกหนากว่า มีกลูเตนมากกว่า ซึ่งเป็นแป้งในอุดมคติสำหรับการทำขนมปัง

แป้งที่นุ่มกว่า(soft) จะมีกลูเตนน้อย เหมาะสำหรับการทำบิสกิต พาย ขนมเค้ก

ข้าวสาลีที่ปลูกฤดูใบไม้ร่วงจะมีกลูเตนมากกว่า ขณะที่การปลูกฤดูหนาวจะมีแร่ธาตุมากกว่า

การเลือกซื้อแป้งตามฉลาก

ตามการขัดสี (milling)

  • patent flour  ขัดจนขาว กลูเตนต่ำ เกลือแร่ต่ำ
  • clear flour or common flour
  • straight grade flour
  • high extraction flour

ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

  • all-purpose flour – แป้งอเนกประสงค์ โปรตีน 9-11 %
  • bread flour – แป้งขนมปัง โปรตีน 11.5-13 %
  • high gluten flour – แป้งโปรตีนสูงพิเศษ มักใช้ผสมกับแป้งอื่น ใช้กับเครื่องจักรนวดแป้ง โปรตีน 14 %
  • whole wheat flour – ไม่ขัดเปลือกออก แบ่งเป็นแบบ soft โปรตีน 11 % ใช้ทำมัฟฟิน และแพนเค้ก และ แบบ hard โปรตีน 13 % ใช้ทำขนมปัง
  • patent durum flour – ไม่ขัดเปลือกออก มีสีเหลืองจาง ดีต่อสุขภาพ โปรตีน 12 % เหมาะกับการทำขนมปังเพื่อสุขภาพ
  • pastry flour – ทำ pastry โปรตีน 9 %
  • cookie flour – ทำคุ้กกี้ โปรตีน 8-9 %
  • cake flour – ทำขนมเค้ก โปรตีน 7.5-8 %

นอกจากนี้ยังมีแป้งชนิดพิเศษอีกหลายประเภท ดังนี้

  • artisanal bread flour
  • vital wheat gluten
  • graham flour
  • organic flour
  • wheat bran
  • wheat germ
  • self-rising flour
  • southern all-purpose
  • instant flour
  • strong and weak

แป้งควรเก็บรักษาในที่เย็น แห้ง การถ่ายเทอากาศดี ไม่มีกลิ่น เนื่องจากแป้งสามารถดูดซับกลิ่น ทำให้มีผลต่อรสชาติเมื่ออบขนมเสร็จ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษา คือ 16.7 – 21.1 องศาเซลเซียส ถ้าเป็น wheat germ , wheat bran ให้เก็บในตู้เย็น เพื่อป้องกันการบูด